[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสารสนเทศ
นักเรียน นักศึกษา 2565

ระดับ ปวช.

ระดับ ปวส.

ตารางเรียน นร. นศ. 1/2565

สาขาวิชาช่างอุตสาหกรรม

     ช่างยนต์

     ช่างไฟฟ้ากำลัง

     ช่างอิเล็กทรอนิกส์

     ช่างเชื่อมโลหะ

สาขาวิชาพาณิชยกรรม และบริหารธุรกิจ

     การบัญชี

     การโรงแรม

ตารางสอบปลายภาค
- ปีการศึกษา 2565
- ปีการศึกษา 2566
รายงานการประเมินตนเอง SAR
- รายงานการประเมินตนเอง SAR 2563
- รายงานการประเมินตนเอง SAR 2564
- รายงานการประกันคุณภาพภายนอกรอบ 4 ปี 2564
- หนังสือรับรองการประเมินภายนอกรอบ 4 ปี 2564
เอกสารเผยแพร่
หน่วยงานภายใน สอศ.

- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- สำนักอำนวยการ
- สำนักความร่วมมือ
- กลุ่มงานจัดการงานบุคลากร1
- กลุ่มงานจัดการงานบุคลากร2
- กลุ่มงานวิทยะฐานะและใบประกอบวิชาชีพ
- สำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา
- สำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา
- สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา
- สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ
- สำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา
- หน่วยตรวจสอบภายใน
- กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
- ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและกำลังคนอาชีวศึกษา
- ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคี
- หน่วยศึกษานิเทศก์

สถิติผู้เยี่ยมชม

 เริ่มนับ 22/ส.ค./2563
ผู้ใช้งานขณะนี้ 3 IP
ขณะนี้
3 คน
สถิติวันนี้
535 คน
สถิติเมื่อวานนี้ี้
665 คน
สถิติเดือนนี้
23972 คน
สถิติปีนี้
128514 คน
สถิติทั้งหมด
590050 คน
IP ของท่านคือ 3.145.163.58
(Show/hide IP)
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> www.pleace.id >>
เจอร์เก้น คล็อปป์ จัด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงตัวจริง และเล่นจนจบเกม  VIEW : 80    
โดย E

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 6
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 13%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 27 เดือน มีนาคม พ.ศ.2567 เวลา 12:23:03   

 

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล จัด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงตัวจริง และเล่นจนจบเกมในแมตช์เปิดรัง แอนฟิลด์ ถลุง สปาร์ต้า ปราก 6-1 ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา สกอร์รวมสองตัดถล่มยับไม่นับญาติ 11-2 ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยแมตช์นี้ "บอส" ยังคงไว้วางใจแข้งดาวรุ่งลงสนาม และทุกคนก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ขณะที่ "บังโม" ยิง 1 แอสซิสต์ 3 แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขากลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และพร้อมที่จะช่วยทีมในช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับการลุ้นแชมป์ทุกรายการในฤดูกาลนี้
1. บังโมสร้างประวัติศาสตร์

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ คล็อปป์ เลือก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงเป็นตัวจริง เพราะเขาต้องการให้นักเตะกลับมาจับจังหวะการเล่นได้อย่างเต็มที่เมื่อร่างกายฟิตสมบูรณ์ แต่ที่น่าแปลกก็คือเจ้าตัวเลือกให้เขาอยู่ในสนามจนจบเกม นั่นแสดงให้เห็นว่า "บังโม" กลับมาแข็งแกร่งเต็มร้อยแล้ว !!

ซาลาห์ กลับมาลงสนามด้วยความมั่นใจที่สำคัญเจ้าตัวยังสร้างผลงานสุดยอดจนถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตู รวมทุกรายการอย่างน้อย 20 ลูก ได้ถึง 7 ฤดูกาลติดต่อกัน หลังทำหนึ่งลูกแมตช์ถล่ม สปาร์ต้า ปราก 6-1

นอกจากจะยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องแล้ว "คิง ออฟ อียิปต์" ยังแสดงให้เห็นถึงจุดเด่นอีกด้านนั่นก็คือการช่วยทำประตู โดยเขาทำแฮตทริกแอสซิสต์ในแมตช์ปะทะ สปาร์ต้า ปราก ด้วย นี่เป็นเครื่องการันตีว่านักเตะพร้อมที่จะแบกภาระทั้งยิงและจ่ายให้กับสโมสร

ผลงานชั้นยอดหลังกลับมาลงตัวจริงเป็นครั้งแรกในรอบเดือนกว่าๆ คงทำให้บรรดานักเตะ และสาวก "เดอะ ค็อป" มีความสุขมากๆ เพราะการมี ซาลาห์ อยู่ในสนามมักจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้บ่อยครั้ง

ฉะนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้จนกระทั่งจบฤดูกาล สตาร์จอมตะบันประตูทีมชาติอียิปต์ วัย 31 ปี จะเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล มีความอันตรายในเกมรุกมากขึ้นเป็นทวีคูณ

2. แนวรุกโหดขู่ทุกทีม

ช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา แนวรุกของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ดูอันตรายมากนักเพราะการขาดหายไปของ ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำให้ โม ซาลาห์ ต้องแบกรับภาระในการยิงประตูเพียงลำพัง

หลุยส์ ดิอาซ แม้จะฟอร์มโดดเด่นมากๆ ในช่วงแรกๆ แต่หลังหายเจ็บกลับมา ดาวเตะชาวโคลอมเบีย ยังไม่สามารถงัดฟอร์มโหดได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ โคดี้ กัคโป กับ ดาร์วิน นูนเญซ ฟอร์มผีเข้าผีออก หาความคงเส้นคงวาไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2023/2024 กัคโป, นูนเญซ และดิอาซ พัฒนาผลงานแบบเขย่งก้าวกระโดด โดยเฉพาะ "น้องนูน" ที่เริ่มเล่นด้วยความมั่นใจ โดย 11 เกมหลังสุดซัดไปแล้ว 9 ประตู และตะบันรวม 17 ประตูในทุกรายการซีซั่นนี้ แม้บางจังหวะเจ้าตัวอาจจะพลาดง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาไปได้เลย

ขณะที่ กัคโป ที่มักจะโดนวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมา แต่สำหรับแมตช์นี้ ดาวเตะชาวดัตช์ ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมกับตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้าย และมักจะหาพื้นที่ในทำประตูได้เรื่อยๆ โดยจัดการซัดไป 2 ตุง ซึ่งหากคมกว่านี้อาจจะได้แฮตทริกด้วยซ้ำ

ตอนนี้ต้องยอมรับว่าขุมกำลังในแดนหน้าของทีมกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด ดังนั้นทั้ง ดิอาซ, นูนเญซ, กัคโป และ ซาลาห์ ต้องขับเคี่ยวกันเพื่อโอกาสได้ลงตัวจริง นี่ถ้าหาก ดีโอโก้ โชต้า กลับมาฟิตสมบูรณ์ ยิ่งทำให้ คล็อปป์ มีออปชั่นในการวางแท็คติกเพิ่มขึ้นอีก

3. ดาวรุ่งคึกคะนอง

บรรดาหงส์น้อยวัยละอ่อนของ คล็อปป์ ยังคงสร้างผลงานดีมีคุณภาพไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวัง โดยทุกคนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และมีส่วนในการช่วยให้ทีมยิงประตูได้ครึ่งโหลในแมตช์นี้

ควีวิน เคลเลเฮอร์, จาร์เรลล์ ควอนซาห์, คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ และ บ็อบบี้ คล้าร์ก แสดงให้แฟนบอล "หงส์แดง" ได้เห็นแล้วว่าพวกเขาเติบโตมากขึ้นทุกวัน และสามารถลงมาทำหน้าที่แทนรุ่นพี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับแมตช์นี้ คล้าร์ก โชว์ความกล้าเล่นมากขึ้น ทั้งจังหวะการกระชาก กล้าที่จะเลี้ยงบอลเข้าไปในเขตโทษ นอกจากนี้ยังมีเทคนิคที่ดีและครองบอลเหนียวแน่น ที่สำคัญยังวิ่งหาพื้นที่ได้ดี ในที่สุดก็ได้รางวัลตอบแทนด้วยการซัดประตูได้อย่างเฉียบคม

นอกจากนี้ตัวสำรองอย่าง มาเตอุสซ์ มูเซียลอฟสกี้ และ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ก็ลงมาแสดงผลงานที่น่าพอใจด้วย แน่นอนว่ายังมีดาวรุ่งในอะคาเดมี่ "เดอะ เร้ดส์" ที่สามารถลงเล่นในช่วงเวลาแบบนี้ได้ ซึ่งนักเตะเหล่านี้คือมรดกสำคัญที่ คล็อปป์ มอบเอาไว้ให้กับสโมสรในการพัฒนาพวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม

4. เตรียมพร้อมออกศึกแดงเดือด

ถือเป็นการเตรียมความพร้อมได้อย่างดีเยี่ยมสำหรับ ลิเวอร์พูล ในแมตช์ถลุง สปาร์ต้า ปราก 6-1 ที่สนามแอนฟิลด์ โดยรวมสกอร์สองแมตช์ชนะไปอย่างท่วมท้วน 11-2 งานนี้ "หงส์แดง" แสดงการข่มขวัญคู่แข่งว่าพวกเขามีเกมรุกที่โหดขนาดไหน

คล็อปป์ แอนด์ โค. มีคิวต้องทำศึกใหญ่เยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม "แดงเดือด" นอกรอบ ศึกเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ วันอาทิตย์นี้ แน่นอนว่านี่คือแมตช์ที่สำคัญเพราะเป็นเกมศักดิ์ศรี และเป็นการลุ้นเส้นทาง 4 แชมป์

แน่นอนว่าศักยภาพของ สปาร์ต้า ปราก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ชัยชนะที่มาพร้อมกับการเล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ มันยิ่งทำให้บรรดาขุนพล "หงส์แดง" เต็มไปด้วยความกระหายที่อยากจะบุกไป "โรงละครแห่งความฝัน"

สำหรับ "ผีแดง" ที่เหลือลุ้นความสำเร็จแค่รายการนี้เท่านั้น คงไม่ยอมให้คู่อริตลอดกาลผ่านไปได้ง่ายๆ และพวกเขาก็มุ่งมั่นที่จะขยันขา ลิเวอร์พูล ไม่ให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้

แม้สถานการณ์ของทั้งสองทีมจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยการที่มีศักดิศรีค้ำคองานนี้ แมนฯ ยูฯ และ ลิเวอร์พูล คงใส่กันไฟแล่บ ดังนั้นการที่ "หงส์แดง" คว้าชัยชนะได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนแมตช์นี้ ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยที่ดีเยี่ยมจริงๆ

5. เส้นทางประวัติศาสตร์ยังอยู่ต่อไป

ลิเวอร์พูล ได้แชมป์มาประดับตู้โชว์ในแอนฟิลด์แล้ว 1 ใบนั่นก็คือ คาราบาว คัพ เมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่บรรดาลูกทีมของ คล็อปป์ ยังคงกระหายที่จะเก็บชัยชนะที่เหลืออยู่อีก 4 รายการให้ได้ เพื่อเป็นการอำลา "บอส" อย่างสมบูรณ์แบบ

โปรแกรมทุกแมตช์ในทุกการแข่งขันของ "หงส์แดง" ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะสานฝันสร้างประวัติศาสตร์ เพราะทุกทีมที่ต้องเจอมีทั้งความแข็งแกร่ง และมุ่งมั่นที่จะสกัดกั้นไม่ให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จตามที่ปรารถนา

แม้บรรดานักเตะลิเวอร์พูล จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะคว้า 4 แชมป์ก็ตาม แต่ในเมื่อทีมยังคงอยู่ในเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ และนี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ได้ร่วมงานกับ คล็อปป์ ดังนั้นพวกเขาพร้อมสู้ถวายชีวิตเพื่อสร้างเกียรติประวัติให้ "บอส" และเป็นการอำลาอย่างยิ่งใหญ่

 

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa