[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสารสนเทศ
นักเรียน นักศึกษา 2565

ระดับ ปวช.

ระดับ ปวส.

ตารางเรียน นร. นศ. 1/2565

สาขาวิชาช่างอุตสาหกรรม

     ช่างยนต์

     ช่างไฟฟ้ากำลัง

     ช่างอิเล็กทรอนิกส์

     ช่างเชื่อมโลหะ

สาขาวิชาพาณิชยกรรม และบริหารธุรกิจ

     การบัญชี

     การโรงแรม

ตารางสอบปลายภาค
- ปีการศึกษา 2565
- ปีการศึกษา 2566
รายงานการประเมินตนเอง SAR
- รายงานการประเมินตนเอง SAR 2563
- รายงานการประเมินตนเอง SAR 2564
- รายงานการประกันคุณภาพภายนอกรอบ 4 ปี 2564
- หนังสือรับรองการประเมินภายนอกรอบ 4 ปี 2564
เอกสารเผยแพร่
หน่วยงานภายใน สอศ.

- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- สำนักอำนวยการ
- สำนักความร่วมมือ
- กลุ่มงานจัดการงานบุคลากร1
- กลุ่มงานจัดการงานบุคลากร2
- กลุ่มงานวิทยะฐานะและใบประกอบวิชาชีพ
- สำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา
- สำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา
- สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา
- สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ
- สำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา
- หน่วยตรวจสอบภายใน
- กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
- ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและกำลังคนอาชีวศึกษา
- ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคี
- หน่วยศึกษานิเทศก์

สถิติผู้เยี่ยมชม

 เริ่มนับ 22/ส.ค./2563
ผู้ใช้งานขณะนี้ 3 IP
ขณะนี้
3 คน
สถิติวันนี้
533 คน
สถิติเมื่อวานนี้ี้
374 คน
สถิติเดือนนี้
8541 คน
สถิติปีนี้
139381 คน
สถิติทั้งหมด
600917 คน
IP ของท่านคือ 18.116.47.85
(Show/hide IP)
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> www.pleace.id >>
5 ประเด็น แมนยู เขี่ย ลิเวอร์พูล หล่นถ้วยเอฟเอ  VIEW : 76    
โดย S

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 9
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 50%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 3 เดือน เมษายน พ.ศ.2567 เวลา 10:41:47   

 

อวสานลงไปเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วสำหรับแผนการคว้าสี่แชมป์ของ หงส์แดง เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกฤทธิ์ซึ่งๆหน้าสาวก เร้ด อาร์มี่ ได้อย่างเกินจริงด้วยการโชว์ลูกฮึดกลับเหตุการณ์แซงชนะ ลิเวอร์พูล ได้อย่างสุดมัน 4-3 สำหรับการฟาดลำแข้งถ้วย เอฟเอคัพ รอบแปดกลุ่มที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค.โดยมี อาหมัด ดิยัลโล่ ผู้เล่นสำรองซัดประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 120+2
1. ผีได้ ฮอยลุนด์ คัมแบ็ค

แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ ราสมุส ฮอยลุนด์ แผงหน้ากลุ่มชาติ เดนมาร์ค คืนสนามเป็นตัวจริงตามคาดข้างหลังเจ้าตัวมีปัญหาเจ็บกล้าม รวมทั้งหายหัวไปนานสี่เกม

นอกนั้น อารอน วาน บิสซาก้า แบ็คขวาฟิตกลับมาลงเล่นได้ด้วยเหมือนกัน ในขณะที่ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เอริค เทน ฮาก เลือกส่ง วิคโคนร์ ลินเดอเลิฟ ลงเล่นแทน จอนนี่ อีแวนส์ ที่เจ็บ

สำหรับดินแดนกึ่งกลาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กลับมาอยู่ในโผ 11 คนแรกภายหลังจาก กาเซมีโร่ พ่อค้าลำแข้งแซมบ้าเดี้ยงเฉียบพลัน

ยิ่งไปกว่านี้ เจ้าของบ้านได้ เมสัน เมาท์ มิดฟิลด์กลุ่มชาติ อังกฤษ ที่เจ็บไปนานสี่เดือนกลับมานั่งอยู่ในซุ้มด้วย

2. หงส์สุดปึ๊กปรับโผสามราย

พบร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ หงส์แดง เลือกใช้งานนักฟุตบอลคีย์แมนลงเล่นได้สุดความสามารถโดยมีการปรับกองทัพสามรายจากเกม ยูโรปาลีก รอบ 16 กลุ่มนัดหมายสองที่ยำใหญ่ สปาร์ต้า ปราก 6-1 ที่่ แอนฟิลด์ เมื่อวันพฤหัสบดี

เกมนี้ ลิเวอร์พูล ส่ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันกลุ่มคืนโผตัวจริงเหมือนกันกับ อเล็กสิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ได้ลงเล่นแทน บ๊อบบี้ คลาร์ก

ส่วนอีกตำแหน่งในแผงรุก วัวดี้ กัคโป กลับไปนั่งสำรองโดยมี หฝ่าส์ ดิอาซ ได้ลงไปในสนาม

3. แปลง ซาลาห์ เพื่อ?

ถึงแม้ แม็คโทมิเนย์ จะสร้างความฮือฮาทำประตูในฤดูกาลนี้ได้เป็นเม็ดที่ 9 จากทุกรายการนำ แมนฯ ยูไนเต็ด นำเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 10 แม้กระนั้นภายหลังจาก หงส์แดง ตั้งเกมได้ พวกเขาก็ทำร้ายเจ้าของบ้านโดยตลอดจนถึงมาได้ประตูตีเสมอนาทีที่ 44 จาก อเล็กสิส แม็ค อัลลิสเตอร์

มันยังไม่ใช่แค่นี้ โม ซาลาห์ ซึ่งชอบพอการสอยตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นความรู้สึกนึกคิดยังทำแสบให้สาวก ยักษ์แดง ได้เซ็งจิตอีกอย่างเดิมเมื่อซัดให้ ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1 ก่อนจบครึ่งแรกอึดใจเดียวซึ่งเป็นเสมือนสัญญาณชี้ว่าเกมแดงเดือดคงจะจบลงราวกับหนังม้วนเดิมเหมือนกับหลายเกมก่อนหน้านี้

จากประตูของ ซาลาห์ มันทำให้สตาร์ทีมชาติ อียิปต์ พังทลายตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็น 13 ลูกแล้วจาก 14 เกม และก็เป็นประตูที่ 8 ของเขาที่ทำเป็นใน โรงแสดงละครที่ความฝัน จากห้าเกมข้างหลัง

จากสถิติดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น มันชัดแจ้งว่า บังโม เป็นนักฟุตบอลที่ก่อให้เกิดปัญหาให้กับ เร้ด เดวิลส์ ได้อย่างเจ็บแสบที่สุด และก็ส่อแววว่าจะเขี่ยเจ้าของบ้านไม่เข้ารอบโดยสถิติข้างหลังเกมใน 45 นาทีแรกจำเป็นต้องจัดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นเกมนี้ได้ดิบได้ดีเกินคาดเพราะว่าหาจังหวะทำประตูได้มากกว่า 11-10 ครั้ง รวมทั้งจ่ายบอลเข้ากรอบได้มากกว่ากลุ่มเยี่ยมเช่นเดียวกัน 7-6 ครั้ง หากแม้สกอร์จะด้อยกว่าและก็การครอบครองบอลที่ผู้มาเยือนทำเป็นดีมากยิ่งกว่า 58:42%

ถึงงั้นก็เถิด คล็อปป์ คงจะตกลงใจไม่ถูกที่เปลี่ยนแปลง ซาลาห์ ออกในตอนช่วงหลังนาทีที่ 77 บางทีอาจด้วยเนื่องจากมีความเห็นว่ากลุ่มยังเล่นได้เหนือกว่าเจ้าของบ้าน แล้วก็อยากใช้ความสดใหม่ลงมาบีบคั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่ม แม้กระนั้นปรากฏว่าแม้ว่าจะยังเหนือกว่า แม้กระนั้นสิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือ ลิเวอร์พูล ปราศจากความเด็ดขาดซึ่งมั่นใจว่าแม้ บังโม ยังได้อยู่ในสนาม เขาจะสร้างความหายนะให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัยจากที่เจ้าตัวบ่งบอกถึงตลอดมา

4. อันโตนี่ จุดประกาย

ธรรมดานานมาแล้ว ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวาแซมบ้ารายนี้ไม่เคยโชว์ฟอร์มให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยินดีเลย แต่ว่าไม่ใช่นัดหมายนี้ที่เขาเปลี่ยนเป็นคนช่วยชีวิตกลุ่มด้วยการซัดประตูตีเสมอ 2-2 ก่อนหมดเวลาเพียงแค่สามนาทีอันทำให้ควรจะมีการยืดเวลาพิเศษ

ที่แท้ข้างหลังได้ลงเล่นแทน ฮอยลุนด์ ในนาทีที่ 71 อันโตนี่ เปิดฉากเกมได้อย่างตกอับไม่เลิกจนกระทั่งทำให้ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกู้ชะตาชมรมในเกมสำคัญนี้ได้ แม้กระนั้นท้ายที่สุดอดีตกาลจอมบุกกลุ่ม อาแจ็กซ์ ก็เรียกเสียงเฮจากแฟนบอล ผีแดง ได้เสร็จจากจังหวะสับไกที่ช่วยทำให้กลุ่มได้หายใจหายคอต่ออีก 30 นาที

สำหรับประตูที่ว่านี้เป็นประตูแรกของจอมท่าทางคนเมืองกาแฟใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยภายหลังเขาเท้าบอดทำประตูในบ้านมิได้เลยนานถึง 24 เกมหรือเกินกว่าหนึ่งปีเนื่องจากว่าประตูในที่สุดตรงนี้ของเขาเกิดขึ้นในเกมบู๊กับ เรอัล เบตำหนิส จากการสู้รบ ยูโรปาลีก วันที่ 9 มี.ค.2023

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเล่นได้ห่วยตลอดมา แม้กระนั้นประตูนี้ของ อันโตนี่ สื่อความหมายอย่างมากมายมหาศาลที่ช่วยทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นต่อในช่วงทดเวลาก่อนที่จะ อาหมัด ดิยัลโล่ จะลักขโมยซีนเป็นวีรบุรุษตัวจริงเสียงจริงของกลุ่มสุดท้าย

5. ทวงแค้นหรือย้ำโกรธแค้น?

ข้างหลังออกมาแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด คลาดโอกาสครองแชมป์อีกทั้งสี่่รายการไปแล้ว แชมป์ ติดอยู่ราบาวคัพ ยังได้โอกาสเอาคืน ผีแดง หรือจะโดนย้ำโกรธแค้นก็ไม่รู้จักได้ในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งสองคู่พิพาทจะได้บู๊กันอีกทีที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันที่ 7 เม.ย.

ว่ากันตามจริง ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาในหลายเกมข้างหลังพวกเราได้มองเห็นกันคุ้นตาว่าเกมแดงเดือดมักส่งผลลัพธ์จบสิ้นลงด้วยชัยของ หงส์แดง แถมพวกเขาปู้ยี่ปู้ยำ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ที่กินขาดได้หลายหนอีกต่างหาก

อย่างไรก็แล้วแต่ เกมปัจจุบันนี้ เทน ฮาก ทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้นได้ไพเราะเพราะพริ้งถึงแม้ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ผีแดง จะได้โอกาสทำประตูด้อยกว่าศัตรูยันเตไม่ว่าจะเป็นการดวลกับกลุ่มที่ต่ำชั้นกว่า และไม่ว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ได้หรือไม่ก็ตาม แม้กระนั้นเกมเมื่อวันอาทิตย์ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติบู๊กับ หงส์แดง ได้ดิบได้ดีอัศจรรย์

พูดอีกนัยหนึ่งข้างหลังจบ 90 นาที เร้ด เดวิลส์ มิได้ด้อยกว่า เร้ด แมชีน เยอะแยะราวกับในหลายๆนัดหมายแม้ว่าจะครอบครองบอลได้ห่วยแตกกว่า 40:60% รวมทั้งได้ยิงน้อยกว่า 19-23 ครั้งโดยจ่ายบอลเข้ากรอบด้อยกว่า 8-10 ครั้ง แม้กระนั้นมันเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจเพราะว่าแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด มิได้เห็นทีมรักหาจังหวะลูบคลำเป้ากับคู่ปรปักษ์ได้มากเท่านี้มาก่อน

แล้วข้างหลังจบ 120 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาได้โอกาสเช็กบิลมากยิ่งกว่า 28-25 ครั้งโดยทั้งคู่กลุ่มจ่ายบอลเข้ากรอบ 11 ครั้งเสมอกัน แล้วก็เป็น หงส์แดง ที่ยังเหนือกว่าในด้านการครอบครองบอล 58:42% แต่ว่าจะมีความคิดเห็นว่ากลุ่มของ เทน ฮาก มิได้ด้อยกว่ากลุ่มของ คล็อปป์ เยอะแยะเสมือนในพักหลังซึ่งคงจะแสดงให้เห็นว่าเกมแดงเดือดเดือนหน้าจะยังน่าดูดูไม่ว่าข้างไหนจะเป็นข้างได้เฮก็ตาม

และก็ที่สำคัญ มันยังน่าจับตาดูเหตุเพราะ หงส์แดง อยากครอบครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยากคว้าชั้นท็อปโฟร์ แต่ว่าปัญหาใหญ่ของ ผีแดง เป็นความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่นอย่างที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันกลุ่มสารภาพข้างหลังเกมว่านำมาซึ่งการทำให้กลุ่มส่งผลงานกระพร่องกระแพร่งอย่างที่มองเห็นในฤดูกาลนี้

แม้กระนั้นสำหรับ หงส์แดง นี่เป็นเกมแรกของทุกรายการในฤดูกาลนี้่ที่พวกเขาออกมาจากสนามในฐานะผู้แพ้ข้างหลังมีประตูนำหน้าคู่แข่งขัน และก็เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สร้างความเจ็บปวดแสบแออัดความแพ้พ่ายให้กับพวกเขาหมดลุ้นคว้าชัยชนะไปแล้วหนึ่งรายการ และก็เป็นครั้งที่ 11 ที่ เร้ด เดวิลส์ เขี่ย เร้ด แมชีน ไม่เข้ารอบถ้วย เอฟเอคัพ

 

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet